กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ(สบส.) ลุยตรวจมาตรฐานกิจการสปาและนวดในเขตกรุงเทพฯ เพื่อคุ้มครองประชาชนให้ได้รับบริการที่มีคุณภาพและความปลอดภัย แนะประชาชนสังเกต
3 หลักฐานสำคัญและประเมินอาการตนเองก่อนเข้ารับบริการ
3 หลักฐานสำคัญและประเมินอาการตนเองก่อนเข้ารับบริการ
วันนี้ (29 มกราคม 2561) นายแพทย์ภัทรพล จึงสมเจตไพศาล รองโฆษกกรมสนับสนุนบริการสุขภาพและผู้อำนวยการกองสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ให้สัมภาษณ์ในระหว่างการลงพื้นที่ตรวจมาตรฐานกิจการสปาและนวดในเขตกรุงเทพฯว่าตามพ.ร.บ.สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ.2559 และกฎหมายลูกที่ออกตาม พ.ร.บ.นี้กำหนดให้ผู้ที่จะเปิดร้านสปาหรือร้านนวดต้องมีใบอนุญาตจากกรมสบส. โดยต้องผ่านการตรวจประเมินมาตรฐาน 3 ด้าน คือ
1.) มาตรฐานด้านสถานที่ เช่น สถานที่ต้องสะอาดมีการจัดการตามหลักสุขาภิบาล มีความเหมาะสมไม่มิดชิดลับตา
2.) มาตรฐานด้านความปลอดภัย เช่น มีอุปกรณ์ปฐมพยาบาลเบื้องต้นที่พร้อมใช้งาน มีการทำความสะอาดอุปกรณ์และเครื่องมืออย่างถูกสุขลักษณะ ผู้ให้บริการต้องมีความรู้ความชำนาญ
3.) มาตรฐานด้านการให้บริการ เช่น เครื่องแบบสำหรับผู้ให้บริการต้องรัดกุม สุภาพ สะอาดเรียบร้อยและสะดวกต่อการปฏิบัติงานฯลฯเป็นต้น โดยหากผ่านการประเมินทั้ง 3 ด้าน จึงจะพิจารณาอนุญาตให้ประกอบกิจการได้ทั้งนี้ กิจการนวดและสปาในเขตกรุงเทพฯอยู่ในการดูแลของกรมสบส. ในส่วนภูมิภาคนั้นได้มีการมอบอำนาจให้แก่นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัดในการตรวจมาตรฐานและออกใบอนุญาต
“กรมฯมุ่งมั่นที่จะคุ้มครองประชาชนให้ได้รับบริการจากร้านที่มีคุณภาพ มีมาตรฐาน โดยประชาชนเองก็ต้องสังเกตร้านก่อนจะเข้ารับบริการด้วยว่าได้รับอนุญาตให้เปิดกิจการอย่างถูกต้องหรือไม่ โดยมีหลักฐานสำคัญคือ
1)ใบอนุญาตให้ประกอบกิจการ
2)ใบอนุญาตให้เป็นผู้ดำเนินการ (กรณีร้านสปา)
3)สติ๊กเกอร์มาตรฐาน สบส.ตามประเภทกิจการและผู้รับบริการต้องประเมินอาการตนเองเบื้องต้นก่อนไปเข้ารับบริการด้วยว่ามีอาการป่วย เช่น มีไข้สูงเกิน 38.5 องศาเซลเซียส มีกระดูกพรุน แตก หัก ปริ ร้าว ข้อเคลื่อน เพิ่งผ่าตัด หรือมีการอักเสบจากการติดเชื้อ ฯลฯ หรือไม่ หากมีอาการดังกล่าว ห้ามนวดเด็ดขาด เพราะอาจเกิดอันตรายได้” นายแพทย์ภัทรพลกล่าว.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น